รีวิวพอตไฟฟ้า Infinity พอต relx แต่ละรุ่น แตกต่างและมีข้อดียังไง

พอต relx แต่ละรุ่น

ถ้าจะนึกถึงพอตไฟฟ้าดีๆ สักแบรนด์ ก็ต้องนึกถึงแบรนด์ที่มีฐานการผลิตจากประเทศมาเลเซียที่เป็นเจ้าของพอตไฟฟ้ารุ่นขายดีอย่างพอตไฟฟ้า Infinity ทั้ง 3 รุ่น ไม่ว่าจะ Infinity, Infinity Plus หรือ Infinity 2 ซึ่งพอตไฟฟ้าดีๆ ทั้ง 3 รุ่นนี้ไม่ได้เพียงแต่จะได้รับคำชื่นชมหรือรีวิวที่ดีจากผู้สูบเท่านั้น แต่พอตไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่นยังได้รับรางวัลการันตีจากงานแข่งขันระดับโลกอีกด้วย โดยหนึ่งในเหตุผลจากหลายๆ เหตุผลที่ทำให้พอตไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่นเป็นพอตไฟฟ้าที่ได้รับการตอบรับที่ดีและมียอดขายที่สูงมากๆ ในตลาดก็คือ ความใส่ใจในทุกรายละเอียดที่ทางแบรนด์นำมาเสิร์ฟ มาเสริมให้กับผู้สูบทุปครั้งที่มีการออกพอตไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ซึ่งสำหรับใครที่กำลังเล็งๆ พอตไฟฟ้าในไลน์สินค้า Infinity อยู่นั้น วันนี้เราจะมาแนะนำพอตไฟฟ้า Infinity ทั้ง 3 รุ่นให้กับทุกคนกันว่า พอต relx แต่ละรุ่น แตกต่างกันอย่างไร มีข้อดียังไงบ้างและควรจะเลือกซื้อพอตไฟฟ้าที่ดี

ตัวไหนกัน

3 พอตไฟฟ้ารุ่นยอดนิยม พอต relx แต่ละรุ่น เป็นยังไง

1.Infinity

พอตไฟฟ้าตัวแรกในไลน์สินค้า Infinity เป็นพอตที่ถูกพัฒนามาจากพอตไฟฟ้าตัวเดิมอย่าง Relx Classic ซึ่งการพัฒนาในครั้งนี้กลับมาพร้อมกับโฉมใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้น ผู้สูบหลายๆ คนจึงให้ความสนใจและเลือกซื้อ โดยตัวเครื่องจะมีดีไซน์ที่เรียบหรู ดูทันสมัน ขนาดเล็กและมีไฟแสดงสถานะ 8 จุดที่ล้อมวงกันเพื่อบอกถึงสถานะการทำงานของตัวเครื่องพร้อมยังอัพเกรดระบบการทำความร้อนให้ดีขึ้น แบตเตอรี่มีความจุมากขึ้นและที่สำคัญระบบการป้องกันการรั่วซึมดีขึ้นมากกว่าเดิมาก โดยเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับตัวเครื่องตัวนี้เป็นเทคโนโลยี Active-Steam Pro และ Air Boost ที่ทำให้ตัวเครื่องสามารถปรับสมดุลและควบคุมไอระเหยได้เป็นอย่างดี แถมความพิเศษของตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ Accessories Case Charge แบบไร้สายอีกด้วย โดยผู้สูบสามารถซื้อเสริมเพื่อเติมเต็มประสิทธิภาพในการทำงานได้ ซึ่ง Case Charge จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือ Large Charging ขนาด 1,500 mAh ที่สามารถใช้งานได้ประมาณ 2 วันและ Mini Gharging ขนาด 1,000 mAh ที่สามารถใช้งานได้ประมาณ 2 วันเหมือนกันแต่มีขนาดและน้ำหนักที่เบากว่า

ข้อมูลจำเพาะตัวเครื่อง

ขนาดตัวเครื่อง : 112 x 23 x 10 มิลลิลิตร

วัสดุตัวเครื่อง : Aluminum Unibody

น้ำหนักตัวเครื่อง : 27 กรัม

ประเภทน้ำยา : Salt Nicotine

ระดับนิโคติน : 0, 1.8, 3 และ 5 เปอร์เซ็นต์

หัวน้ำยาที่ใช้ได้ : Relx Pod, Relx Pod Pro และ Relx Pod Pro 2

ความจุแบตเตอรี่ : 380 mAh

ประเภทการชาร์จแบตเตอรี่ : Dual Charging USB Type C และ Case Charge

ไฟแสดงสถานะ : LED Light

ราคาตัวเครื่อง : 1,290 บาท

2.Infinity Plus

เมื่อได้รับความประสบความสำเร็จอย่างมากจาก Infinity รุ่นแรก ทางแบรนด์ก็ได้อัพเกรดให้ พอตไฟฟ้า ตัวถัดมาอย่าง Infinity Plus ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมและราคาจับต้องได้มากขึ้น โดยจุดขายของพอตไฟฟ้าในครั้งนี้คือดีไซน์ที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกสีที่มีความสดใสและดูเข้าถึงได้มากขึ้น ไฟแสดงสถานะ 4 ขีดที่สามารถดูสถานะแบตเตอรี่ได้ทันทีว่าเรามีแบตเตอรี่เหลือเท่าไหร่ และความจุแบตเตอรี่ที่เท่าเดิม แต่การชาร์จแบตเตอรี่กับทำได้ดี ได้รวดเร็วมากขึ้น ทำให้ผู้สูบที่ซื้อพอตไฟฟ้ารุ่นนี้มาไม่ต้องเสียเวลารอนาน สามารถสูบได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวันและตัวเครื่องก็ยังถูกออกแบบมาให้สามารถวางในแนวตั้งเพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคบนพื้นผิวที่สกปรกได้อีกด้วย 

ข้อมูลจำเพาะตัวเครื่อง

ขนาดตัวเครื่อง : 112 x 23 x 10 มิลลิลิตร

ประเภทน้ำยา : Salt Nicotine

ระดับนิโคติน : 0, 1.8, 3 และ 5 เปอร์เซ็นต์

หัวน้ำยาที่ใช้ได้ : Relx Pod, Relx Pod Pro และ Relx Pod Pro 2

ความจุแบตเตอรี่ : 380 mAh

ระยะเวลาในการชาร์จ : 30 นาที 80 เปอร์เซ็นต์ 45 นาที 100 เปอร์เซ็นต์

วิธีดูสถานะแบตเตอรี่ : 1 ขีดหมายถึง 0-25 เปอร์เซ็นต์ 2 ขีดหมายถึง 26-50 เปอร์เซ็นต์ 3 ขีดหมายถึง 51-75 เปอร์เซ็นต์และ 4 ขีดหมายถึง 76-100 เปอร์เซ็นต์

ประเภทการชาร์จแบตเตอรี่ : USB Type C

ราคาตัวเครื่อง : 990 บาท

3.Infinity 2

Infinity 2 เป็น พอต relx ตัวใหม่ ที่ทางแบรนด์ปล่อยตัวออกมา​ โดยการกลับมาในครั้งนี้เป็นการกลับมาพร้อมความทันสมัยที่มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีตัวเครื่องประสบการณ์ในการสูบไอที่จะได้ สีตัวเครื่องหรือไฟแสดงสถานะ แต่ที่โดดเด่นมากๆ และหลายๆ คนให้การจับตามองคือความสามารถในการปรับระดับไอในการสูบได้มากถึง 3 ระดับ โดยแต่ละระดับจะแตกต่างกันออกไป ดังนี้

1.Eco Mode 5W

Eco Mode เป็นระดับพลังงานต่ำที่สุด ที่ช่วยให้การทำงานของตัวเครื่องประหยัดแบตเตอรี่มากที่สุดและช่วยให้ประหยัดน้ำยาได้มากถึง 25 เปอร์เซ็นต์

2.Smooth Mode 6.5W 

Smooth Mode เป็นระดับพลังงานปกติของ พอตไฟฟ้า ทั่วไป แต่สำหรับ พอตไฟฟ้าจาก relx จะได้ความนุ่มและสัมผัสที่ดีกว่าพอตไฟฟ้าจากแบรนด์อื่นๆ 

3.Boost Mode 8W

Boost Mode เป็นระดับพลังงานสูงสุด ที่จะทำให้ผู้สูบได้รับประสบการณ์แบบจัดเต็ม ได้ควันเยอะมากๆ และได้รสชาติเข้มข้นกว่า Smooth Mode

และถึงแม้ตัวเทคโนโลยีจะถูกอัพเกรดให้ทันสมัยแค่ไหน แต่สิ่งที่ทางแบรนด์ยังคงเอาไว้ คือการทำงานที่เรียบง่ายของตัวเครื่อง ผู้สูบยังไม่ต้องกดปุ่มเพื่อเริ่มการสูบไอเหมือนเดิม และผู้สูบสามารถเปลี่ยนโหมดในการสูบได้เพียงกดปุ่ม 1 ครั้งที่ด้านข้างของตัวเครื่องหรือบริเวณไฟแสดงสถานะนั้นเอง

ข้อมูลจำเพาะตัวเครื่อง

ขนาดตัวเครื่อง : 112 x 23 x 10 มิลลิลิตร

ประเภทน้ำยา : Salt Nicotine

ระดับนิโคติน : 3 เปอร์เซ็นต์

หัวน้ำยาที่ใช้ได้ : Relx Pod Pro 2 (ในการใช้งานพอตไฟฟ้า Infinity 2 ถ้าผู้สูบต้องการใช้งานโหมดปรับระดับไอได้ต้องใช้กับหัวน้ำยา Relx Pod Pro 2 gmjkoyho)

ความจุแบตเตอรี่ : 440 mAh

ระยะเวลาในการชาร์จ : 15 นาที 80 เปอร์เซ็นต์

ประเภทการชาร์จแบตเตอรี่ : USB Type C

ราคาตัวเครื่อง : 890 บาท

เลือกซื้อ พอต relx แต่ละรุ่น ยังไง ตัวไหนเหมาะกับเรา

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจซื้อ พอตไฟฟ้า ตัวไหนดีจากพอตทั้งหมด 3 รุ่นนี้ เราจะมาแบ่งออกเป็นหัวข้อย่อยๆ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้สูบดังนี้

1.อยากได้พอตไฟฟ้าราคาถูก เลือกซื้อ Infinity 2

2.อยากได้พอตไฟฟ้าที่มีระบบการชาร์จแบบ Dual Charging เพื่อการชาร์จแบตเตอรี่ที่สะดวกสบายมากขึ้น เลือกซื้อ Infinity

3.อยากได้พอตไฟฟ้าที่ดูสถานะแบตเตอรี่ง่าย และมีสีสันที่สวยงาม เลือกซื้อ Infinity Plus

4.อยากได้ พอตไฟฟ้า ที่ชาร์จแบตเตอรี่รวดเร็ว เลือกซื้อ Infinity Plus หรือ Infinity 2

5.อยากได้พอตไฟฟ้าที่ปรับระดับไอในการสูบได้ เลือกซื้อ Infinity 2

6.อยากได้พอตไฟฟ้าที่มีตัวเลือกกลิ่น รสชาติและหัวน้ำยาหลากหลาย เลือกซื้อ Infinity และ Infinity Plus